คุณเคยมีประสบการณ์นี้หรือไม่? หลังจากใช้โทรศัพท์มาหลายปี แบตเตอรี่ บวม หรือนูน จนอาจจะทำให้หน้าจอและตัวเครื่องแยกออกจากกัน เมื่อเกิดแบบนี้ขึ้น มันจะ เป็นอันตรายมาก และอาจจะทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้! ให้ Innergie แนะนำคุณอย่างรวดเร็ว เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของแบตเตอรี่บวม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชาร์จ และการดูแลโทรศัพท์ของคุณ!
สัญญาณของแบตเตอรี่บวม: คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณบวมแล้ว?
- ลักษณะโทรศัพท์ภายนอก: มีช่องว่างเกิดขึ้นระหว่างหน้าจอและตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงความผิดปกติ เช่น จุดสีขาว หรือ การเปลี่ยนสี หากคุณพบลักษณะดังกล่าว คุณจะต้องเฝ้าระวังมากขึ้น เนื่องจากแบตเตอรี่โทรศัพท์อาจบวม
- การใช้พลังงาน: ขณะใช้โทรศัพท์ แบตจะหมดกะทันหันได้ง่าย และโทรศัพท์จะปิดเครื่องเองบ่อยครั้ง แสดงว่ามีปัญหากับความจุของแบตเตอรี่!
การทำโทรศัพท์ตกจะทำให้แบตบวมได้หรือไม่? เหตุใดแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ที่ใช้งานได้เป็นปกติดีจึงบวมหรือนูน? คุณอาจมองข้ามสาเหตุเหล่านี้:
- การชาร์จด้วยกระแสไฟสูงเกินไป และ การคลายประจุไฟ: การรักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานก่อนที่จะชาร์จหรือเสียบปลั๊กทิ้งไว้หลังจากชาร์จเต็มแล้วอาจทำให้แรงดันภายในแบตเตอรี่ไม่เสถียร ส่งผลให้สารเคมีในแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
- อายุแบตเตอรี่: ภายใต้การใช้งานโทรศัพท์ตามปกติ สารเคมีภายในแบตเตอรี่จะค่อยๆ เสื่อม ซึ่งอาจส่งผลให้แบตเตอรี่บวมได้
- ภายนอกได้รับความเสียหาย: การใช้โทรศัพท์อย่างไม่เหมาะสม เช่น การทำโทรศัพท์หล่น อาจทำให้โครงสร้างภายในของแบตเตอรี่เสียหาย ทำให้เกิดอาการบวมได้
- ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม: การวางโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น มีความชื้น หรือ อุณหภูมิสูง ทำให้สามารถเร่งการเสื่อมสภาพของสารเคมีภายในแบตเตอรี่ ทำให้เกิดก๊าซเคมีได้
จะทำอย่างไรหากแบตบวม? มันยังสามารถใช้งานได้ต่อหรือไม่?
เราขอแนะนำให้หยุดใช้ทันที! มีข่าวลือที่ไม่ถูกต้องทางออนไลน์ที่อ้างว่า ตราบใดที่คุณเจาะรูเล็กๆ ในแบตเตอรี่เพื่อปล่อยแก๊ส คุณก็สามารถใช้แบตเตอรี่ต่อไปได้ นี่มันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง! หลังจากที่แบตเตอรี่ขยายตัว ไม่เพียงแต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิด แต่ยังรวมไปถึงการปล่อยก๊าซและสารเคมีที่เป็นอันตรายอีกด้วย กระบวนการบวมยังสร้างความเสียหายให้กับส่วนประกอบสำคัญของโทรศัพท์อีกด้วย
3 เคล็ดลับที่จะช่วยป้องกันแบตเตอรี่บวม!
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชาร์จให้ถูกต้อง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชาร์จที่ถูกต้อง: อย่าชาร์จโทรศัพท์เมื่อระดับแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% และพยายามอย่าให้ระดับแบตเตอรี่เกิน 80% ถอดปลั๊กหัวชาร์จออกเมื่อชาร์จเต็มแล้ว และหลีกเลี่ยงการให้โทรศัพท์สัมผัสกับอุณหภูมิหรือสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันมาก! (คลิกที่นี่เพื่อดู: ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชาร์จที่ดี 6 ประการ)
ตรวจสอบแบตเตอรี่เป็นประจำ:
2. หมั่นตรวจสอบเป็นระยะ
ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณเป็นระยะ และส่งไปตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
3. เลือกใช้หัวชาร์จที่มีการรับประกันคุณภาพ
เลือกใช้หัวชาร์จที่มีคุณภาพ: การเลือกหัวชาร์จที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีความปลอดภัยในการชาร์จ การเลือกหัวชาร์จที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้แบตเตอรี่เสียหายหรือการเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย ดังนั้น ไม่ควรใช้หัวชาร์จที่ด้อยคุณภาพ หรือ ราคาถูก!
แนะนำสำหรับคุณ: หัวชาร์จคุณภาพสูงสุดจาก Delta Electronics หัวชาร์จ Universal ของ Innergie - วัสดุคุณภาพสูง กระบวนการผลิตที่เข้มงวด 5 ระบบการป้องกันพิเศษ และผ่านการทดสอบภายในของ Delta ซึ่งเป็นระดับความปลอดภัยที่ไม่มีใครเทียบได้
- C3 Duo ชาร์จมือถือ และอุปกรณ์พกพา 30 วัตต์ - หัวชาร์จ USB-C พอร์ตคู่ 30 สำหรับชีวิตประจำวัน
- 45H ชาร์จโน้ตบุ๊กและมือถือ 45 วัตต์ - หัวชาร์จพอร์ตคู่ USB-C+A เพื่อความบันเทิงในทุกๆ วัน
- C6 ชาร์จโน้ตบุ๊กและมือถือ 60 วัตต์ - หัวชาร์จ USB-C คลาสสิก
- C6 Duo ชาร์จโน้ตบุ๊กและมือถือ - หัวชาร์จ USB-C สำหรับการทำงานอย่างอเนกประสงค์